ผู้เขียน หัวข้อ: อาหารที่ช่วยให้ สดชื่น กระปรี้กระเปร่า หายอ่อนเพลียมีอะไรบ้าง?  (อ่าน 83 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 489
    • ดูรายละเอียด
เชื่อว่าทุกคนคงทราบดีอยู่แล้วว่าการนอนหลับพักผ่อนสำคัญมากต่อการมีสุขภาพที่ดี อย่างไรก็ตาม ด้วยไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันที่ไม่เอื้อต่อการได้พักผ่อนอย่างเต็มที่เท่าไรนัก เพราะต้อง Work Hard, Play Hard แทบทุกวัน รู้ตัวอีกที ร่างกายก็รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง ไม่สดชื่นเหมือนที่เคย


แน่นอนว่าการเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ หันมาดูแลเอาใจใส่สุขภาพให้มากขึ้นคือสิ่งที่ดี แต่ด้วยภาระหน้าที่และความรับผิดชอบ สิ่งนี้จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่คิดปุ๊ปทำปั๊ปได้เลย ดังนั้นทางเลือกที่ตอบโจทย์ที่สุด อีกทั้งยังสะดวกสบาย ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้คือการรับประทานอาหารบำรุงร่างกาย

อาหารแก้อ่อนเพลียมีหลากหลายประเภท และสำหรับใครที่กำลังสงสยว่าหากร่างกายรู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง ควรกินอะไรดี? บทความนี้มีข้อแนะนำมาบอกกัน ติดตามได้เลย
 

เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน

หากถามคำถามว่า ‘นอนไม่พอ กินอะไรดีให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่า?’ กับคนวัยทำงานและมนุษย์เงินเดือนทั้งหลาย เชื่อได้เลยว่าส่วนใหญ่จะนึกถึงคำตอบเดียวกันคือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ไม่ว่าจะเป็นกาแฟ ชา โกโก้ หรือเครื่องดื่มชูกำลังนานาชนิด เนื่องจากเครื่องดื่มเหล่านี้คือตัวช่วยอันดับหนึ่งในการขับไล่ความอ่อนเพลีย ช่วยให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และที่สำคัญคือหาซื้อได้อย่างสะดวกสบาย

สาเหตุที่ทำให้เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเป็นประเภทอาหารที่ช่วยให้หายอ่อนเพลีย เพราะเมื่อบริโภคเข้าไป คาเฟอีนจะถูกดูดซึม และกระจายไปทั่วร่างกายอย่างรวดเร็ว รวมถึงส่วนสมองด้วย จากนั้นคาเฟอีนจะทำปฏิกิริยาปิดกั้นสารที่ช่วยส่งเสริมในการนอนหลับอย่าง ‘อะดีโนซีน’ ไม่ให้ออกฤทธิ์กับร่างกายชั่วขณะหนึ่ง เนื่องจากคาเฟอีนมีลักษณะคล้ายกับโมเลกุลที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของอะดีโนซีนหลายประการ

อะดีโนซีนมีบทบาทมากมายต่อร่างกาย รวมถึงช่วยควบคุมวงจรการนอนหลับโดยการจับกับตัวรับอะดีโนซีนในสมอง อะดีโนซีนจะกระตุ้นตัวรับทำให้การทำงานของระบบประสาทช้าลง และเพิ่มความรู้สึกง่วงนอน ดังนั้นเมื่อถูกแทนที่ด้วยคาเฟอีน จากที่ร่างกายรู้สึกว่าต้องการพักผ่อน ระบบส่วนกลางก็จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเป็นความตื่นตัวสดชื่นแทน

ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นคำตอบว่าทำไมเครื่องดื่มคาเฟอีนจึงเป็นอาหารแก้อ่อนเพลียยอดนิยม อย่างไรก็ตามควรตระหนักเช่นกันว่าคาเฟอีนอาจส่งผลให้ใจสั่น เวียนหัว เสียสมาธิได้ รวมถึงผู้ที่มีอาการป่วยเกี่ยวกับระบบหัวใจควรหลีกเลี่ยงการบริโภคคาเฟอีนในปริมาณมาก นอกจากนี้ การบริโภคคาเฟอีนมากเกินไปอาจทำให้ร่างกายเกิดการเสพติดได้ โดยปริมาณสูงสุดสำหรับผู้ใหญ่ในการบริโภคคาเฟอีนต่อวันจะอยู่ที่ 400 มิลลิกรัม หรือเทียบได้กับกาแฟประมาณ 4 แก้ว


น้ำผักผลไม้รวม

เครื่องดื่มอีกหนึ่งประเภทที่จะมาช่วยตอบคำถามว่า ‘นอนน้อย กินอะไรดี?’ ได้อย่างที่หลายคนคาดไม่ถึงคือน้ำผักผลไม้รวม เนื่องจากในผลไม้หลายชนิดอุดมไปด้วยกลูโคส และฟรุกโตส ซึ่งเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว ความพิเศษคือร่างกายจะดูดซึมน้ำตาลชนิดนี้ได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ในทันทีหลังจากบริโภคเข้าไป ร่างกายจะรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า

โดยผลไม้บางชนิดอย่าง กล้วย ยังมีวิตามินบี 6 หรือ ไพริดอกซีน (Pyridoxine) ซึ่งมีส่วนช่วยในการแก้อ่อนเพลีย และอาการเหนื่อยล้า เนื่องจากคุณประโยชน์ด้านกระตุ้นการสร้างสารสื่อประสาท และช่วยปรับสมดุลทางอารมณ์

อย่างไรก็ตาม การรับประทานผักและผลไม้สดอาจไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายเท่าไรนัก ดังนั้นทางเลือกที่ดีกว่าคือการนำมาปั่นให้กลายเป็นน้ำผักผลไม้รวม ทำให้รับประทานง่ายขึ้น ในขณะที่ยังคงคุณประโยชน์ไว้ครบครันเช่นเดิม นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งคำแนะนำคือ การเลือกผักผลไม้ที่นำมาปั่นควรนำมาให้ครบทั้ง 5 สี (แดง, ส้ม/เหลือง, เขียว, ขาว, ม่วง) เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินเกลือแร่อย่างครบถ้วน

ถึงแม้ว่าน้ำผักผลไม้รวมจะเป็นอาหารบำรุงร่างกายชั้นเลิศ อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลียได้ชะงัด แต่ด้วยปริมาณน้ำตาลที่ค่อนข้างสูง ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานหรือมีน้ำตาลในเลือดสูงควรหลีกเลี่ยง โดยปริมาณผักและผลไม้สดที่ควรบริโภคต่อวันตามการแนะนำขององค์การอนามัยโลกอยู่ที่ 400 กรัม


อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง

หากคุณไม่ชอบดื่มชา กาแฟ และน้ำผักผลไม้รวม อีกหนึ่งทางเลือกอาหารที่ช่วยให้หายอ่อนเพลียคืออาหารที่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น ข้าว ขนมปัง  เผือก มันเทศ มันฝรั่ง ถั่วเมล็ดแห้ง เป็นต้น นอกจากนั้นคาร์โบไฮเดรตที่ดีที่สุดคือคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่พบมากในข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี และขนมปังโฮลวีท เนื่องจากให้พลังงานร่างกายได้ยาวนาน ทำให้ไม่หิวเร็ว

คาร์โบไฮเดรตช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลียที่เกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอได้อย่างไร? คำตอบคือ เนื่องจากเมื่อคาร์โบไฮเดรตผ่านกระบวนการย่อยจนกลายเป็นน้ำตาล จากนั้นเมื่อน้ำตาลถูกดูซึมเข้าสู่ระบบต่าง ๆ ของร่างกาย ย่อมเป็นแหล่งพลังงานที่ช่วยลดความเหนื่อยล้าอ่อนเพลียได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม อะไรที่มากเกินไปก็ไม่ดี คาร์โบไฮเดรตก็เช่นกัน ควรรับประทานอาหารแก้อ่อนเพลียประเภทนี้อย่างเหมาะสมตามน้ำหนักตัวเพื่อป้องกันไม่ให้ได้รับแคลลอรี่ที่เกินจำเป็น เพราะอาจนำไปสู่ภาวะอ้วนได้



อาหารที่ช่วยให้ สดชื่น กระปรี้กระเปร่า หายอ่อนเพลียมีอะไรบ้าง? อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/products/