ผู้เขียน หัวข้อ: บริษัทรับสร้างบ้าน ตามแบบ กับเทคนิครับมือน้ำท่วม  (อ่าน 65 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 429
    • ดูรายละเอียด
บริษัทรับสร้างบ้าน ตามแบบ กับเทคนิครับมือน้ำท่วม
« เมื่อ: วันที่ 18 พฤศจิกายน 2023, 18:23:22 น. »
น้ำท่วม เป็นปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นเป็นประจำเมื่อเข้าสู่หน้าฝน ซึ่งแน่นอนว่า ไม่มีใครที่อยากเจอกับปัญหาเหล่านี้อย่างแน่นอน เพราะสิ่งที่ตามมาหลังจากน้ำลดก็คือปัญหาและค่าใช้จ่ายที่ตามมาอีกมากมาย เช่น หากข้าวของเครื่องใช้เสียหาย ก็ต้องเสียเงินซื้อมาทดแทน หรือหากส่วนใดของบ้านเกิดความเสียหายจากน้ำท่วม ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเพิ่มขึ้นอีก แล้วจะมีเทคนิคอะไรที่จะทำให้คุณไม่ต้องปวดหัวกับปัญหาน้ำท่วมบ้าน


เทคนิครับมือน้ำท่วม ที่ บริษัทรับสร้างบ้าน ตามแบบ อยากบอก


1. สำรวจที่ดินของทำเลที่จะสร้างบ้าน

    ปัญหาบ้านทรุดหลังน้ำลด เป็นปัญหาที่เกิดจากสภาพชั้นดินบริเวณที่สร้างบ้าน ซึ่งมักจะเกิดขึ้นกับพื้นดินที่เป็นหินกรวด ทราย หรือดินเหลว เพราะไม่มีความแน่นหนา ทำให้สามารถไหลไปกับกระแสน้ำได้ โดยก่อนที่จะสร้างบ้าน คุณควรจะให้วิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญ เข้ามาทำการสำรวจที่ดินที่จะสร้างบ้านก่อนว่า เป็นชั้นดินประเภทใด หากเป็นชั้นหินแข็งแรง หรือชั้นดินถมมาอย่างแน่นหนา ก็จะสามารถลดปัญหาบ้านทรุดได้

    ซึ่งที่บริษัทรับสร้างบ้าน 2 ชั้นตามแบบ รอแยลเฮ้าส์ มีบริการตรวจสอบที่ดินของลูกค้าก่อนการสร้างบ้านโดยทีมงานสถาปนิก และวิศวกร ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการออกสำรวจที่ดินของลูกค้า เพื่อนำปัจจัยต่างๆ เช่น ลักษณะของชั้นดิน ความสูง-ต่ำของที่ดิน เป็นต้น มาวิเคราะห์ให้เหมาะสมกับการสร้างบ้านต่อไป

     
   
2. สำรวจระดับน้ำที่เคยท่วม

    เมื่อทราบระดับน้ำที่เคยท่วมถึง ก็จะทำให้คุณสามารถหาแนวทางการออกแบบบ้านให้อยู่เหนือระดับน้ำท่วม หรือหาวิธีป้องกันน้ำท่วมได้ เช่น การยกพื้นสูง หรือสร้างบ้านที่มีใต้ถุนสูง เป็นต้น โดยคุณสามารถลงพื้นที่ไปสำรวจด้วยตัวเอง ผ่านการสอบถามจากคนในพื้นที่ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แท้จริง

     
   
3. เพิ่มความยาวของเสาเข็ม

    เสาเข็ม ถือเป็นรากฐานสำคัญที่ทำหน้าที่รับน้ำหนักของตัวบ้าน และถ่ายน้ำหนักลงสู่พื้นดิน ดังนั้นหากชั้นดินของพื้นที่ที่จะสร้างบ้านไม่แข็งแรงพอ หรือมีการสไลด์ ก็ควรจะปรึกษาและพูดคุยกับทีมวิศวกรเพื่อเพิ่มความยาวของเสาเข็มให้มากกว่าปกติ เพื่อป้องกันการเสียหายของหน้าดินที่จะส่งผลกระทบต่อความแข็งแรงต่อโครงสร้าง

    ซึ่งโดยปกติแล้ว หากคุณเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่มีมาตรฐาน วิศวกรที่เข้ามาดูแลการก่อสร้างบ้านให้กับคุณจะเป็นผู้ดูแล และให้คำแนะนำในส่วนนี้อยู่แล้ว ทำให้คุณหมดกังวลในส่วนนี้ไปได้เลย

     
   
4. เลือกบานประตู-หน้าต่างที่เปิดออกสู่ภายนอก

    เนื่องจากบานประตู-หน้าต่างที่เปิดออกสู่ภายนอก จะมีความแข็งแรงทนทานต่อลมที่ปะทะเข้าสู่ตัวบ้านได้มากกว่าแบบปิดเข้ามาภายใน นอกจากนี้ หากบริเวณที่คุณอยู่มีรถขับผ่าน ก็จะสามารถทนทานต่อแรงกระแทกของน้ำได้ดีกว่าแบบที่ปิดเข้ามาภายในเช่นกัน

     
   
5. ออกแบบหลังคาให้ปลอดภัย

    การออกแบบหลังคาบ้าน ควรออกแบบให้มีความลาดเอียงทั้ง 4 ด้าน หรือออกแบบทรงปั้นหยา และเลือกวัสดุที่มีความเบา และยืดหยุ่นได้ดี แต่แข็งแรง ซึ่งจะทำให้สามารถรับมือต่อลมพายุและฝนที่ตกหนักได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ ก็ควรระวังช่องเปิดเหนือผนังบริเวณ เพราะเป็นบริเวณที่ลมพัดผ่านได้ และหากลมแรงมากก็จะสามารถพัดเอาหลังคาหลุดลอยออกไปได้

    นอกจากนี้ ยังควรออกแบบให้หลังคาและกันสาดแยกออกจากกัน เพราะหากเกิดลมแรงแล้วมีส่วนใดส่วนหนึ่งหลุดออกไป ก็จะยังมีส่วนที่สามารถป้องกันบ้านจากลมและฝนได้อยู่ รวมถึงไม่ควรออกแบบให้มีชายคาที่ยาวเกินไป เพราะจะปะทะกับลมโดยตรง อาจะเกิดความเสียหายที่เป็นอันตรายต่อชีวิตได้

     
   
6. หลีกเลี่ยงการใช้กระจกรอบบ้าน

    หากบ้านของคุณ อยู่ในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมหนัก หรือลมแรงและไม่มีอาคารอื่นมากันลมให้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้กระจกเป็นส่วนประกอบหลักของบ้าน เพราะหากกระจกแตกก็จะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ หากต้องการเลือกใช้กระจก ก็ควรจะเลือกที่เป็นกระจกนิรภัย ซึ่งมีความแข็งแรงกว่ากระจกทั่วไป หรือเลือกวัสดุที่มีความแข็งแรงกว่ากระจกอย่างไม้ เหล็ก หรือพลาสติกแทน

สุดท้ายนี้ หากบริษัทรับสร้างบ้านตามแบบที่คุณเลือก มีทีมงานสถาปนิกและวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ เชื่อว่าบ้านของคุณจะไม่ต้องเจอกับปัญหาน้ำท่วมอย่างแน่นอน ทำให้การเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่ได้มาตรฐานและมีความน่าเชื่อถือ เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องให้ความใส่ใจเป็นอย่างมาก


บริษัทรับสร้างบ้าน ตามแบบ กับเทคนิครับมือน้ำท่วม อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://luxuryhomesdesigns.com/