ผู้เขียน หัวข้อ: ซ่อมบำรุงอาคาร: การตรวจสอบระบบไฟฟ้า สำคัญมาก  (อ่าน 57 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 429
    • ดูรายละเอียด
ซ่อมบำรุงอาคาร: การตรวจสอบระบบไฟฟ้า สำคัญมาก
« เมื่อ: วันที่ 27 พฤศจิกายน 2023, 14:03:05 น. »
การตรวจสอบระบบไฟฟ้าเป็นสิ่งที่พึงกระทำอย่างน้อยปีละครั้งเพื่อเป็นการเช็กสภาพความสมบูรณ์ของวงจรไฟฟ้าภายในอาคาร ซึ่งการตรวจสอบระบบไฟฟ้าจะช่วยลดความเสี่ยงและจัดการกับปัญหาที่เกิดมาจากวงจรไฟฟ้าที่ชำรุดเสียหาย เช่น ไฟดับกะทันหัน ไฟตกเป็นช่วง ๆ หรือบางกรณีร้ายแรงถึงขั้นไฟฟ้าลัดวงจรส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้ตามมา เป็นต้น การใช้บริการตรวจสอบระบบไฟฟ้าจึงเป็นการลดความเสี่ยงด้วยการค้นหาจุดที่เสียหายและทำการซ่อมแซมให้เรียบร้อย

และแน่นอนว่าการเลือกบริการตรวจสอบระบบไฟฟ้าจำเป็นต้องเลือกช่างที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน เนื่องจากพวกเขาเป็นช่างที่มีความสามารถและอุปกรณ์เฉพาะทางสำหรับตรวจสอบซ่อมแซมระบบไฟฟ้า หากคนธรรมดาที่ขาดความชำนาญไปแตะต้องวงจรระบบไฟฟ้าแบบสุ่มสี่สุ่มห้าอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อตนเองได้ ทำให้การหาช่างไฟฟ้าผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะมาตรวจสอบเองจึงเป็นทางออกที่ช่วยแก้ปัญหาอย่างตรงจุด


การตรวจสอบระบบไฟฟ้า สำคัญมาก

ไม่ว่าจะเป็น บ้าน หรือ อาคารสำนักงานต่าง ๆ การตรวจสอบระบบไฟฟ้าก็มีความสำคัญเป็นอย่างมาก หลายคนอาจมองข้ามการตรวจสอบระบบไฟฟ้าประจำปี เพราะคิดว่าไม่มีความจำเป็น ระบบไฟฟ้าภายในอาคารก็ยังทำงานปกติไม่มีอาการไฟดับ หรือ ไฟตก ไม่จำเป็นต้องใช้บริการตรวจสอบระบบไฟฟ้าหรอก ซึ่งความจริงแล้วอย่างน้อยก็ควรตรวจสอบความสมบูรณ์ของระบบไฟฟ้าปีละหนึ่งครั้ง ถ้าเกิดว่ามีส่วนไหนเสียหายก็จะสามารถซ่อมแซมก่อนที่ปัญหาต่าง ๆ จะเกิดขึ้นตามมา

ปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยจากการปล่อยปละละเลยไม่ตรวจสอบระบบไฟฟ้าเลย คือ ไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดเพลิงไหม้ที่ส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลในละแวกใกล้เคียง นอกจากไฟฟ้าลัดวงจรแล้วยังมีปัญหาไฟตก ไฟดับ ที่สร้างความน่ารำคาญใจให้กับคนที่มีความจำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าในการทำงาน การตรวจสอบระบบไฟฟ้าจึงมีความสำคัญมาก ๆ ทั้งในด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการทำงานของระบบไฟฟ้า


ตรวจสอบระบบไฟฟ้า มีแบบไหนบ้าง

รตรวจสอบไฟฟ้า (มาตรฐาน 7 รายการ) เป็นรูปแบบตรวจสอบขั้นพื้นฐานที่ช่วยเช็กสภาพระบบวงจรไฟฟ้าขั้นพื้นฐาน 7 รายการ เพื่อเป็นการตรวจเช็กความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า ซึ่งทางช่างจะลงมือตรวจสอบด้วยอุปกรณ์เฉพาะทางครอบคลุมเพียง 7 รายการตามที่ระบุไว้เท่านั้น ทำให้ไม่ค่อยเหมาะสำหรับบ้านที่ระบบไฟฟ้าชำรุดเสียหายเป็นอย่างหนัก โดยวิธีการตรวจสอบทางช่างที่มีความชำนาญจะลงพื้นที่และใช้อุปกรณ์เฉพาะทางตรวจสอบด้วยตัวเอง ก่อนจะลงมือซ่อมแซม 7 รายการตามมาตรฐานดังนี้

    แผงจ่ายไฟหลัก
    เต้ารับและสวิตช์ไฟฟ้าภายในบ้าน 25 จุด
    เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีโครงสร้างเป็นโลหะ ทั้งหมด 10 จุด เนื่องจากเสี่ยงต่อการเกิดไฟรั่ว
    วงจรไฟฟ้านอกบ้านไม่เกิน 2 จุด
    เครื่องทำน้ำอุ่นภายในบ้านไม่เกิน 2 จุด
    ระบบไฟสำหรับปั๊มน้ำ 1 จุด
    เบรกเกอร์ย่อยที่ติดตั้งเพิ่มเติม 5 จุด


ตรวจสอบไฟฟ้า (อย่างละเอียด 11-12 รายการ)

ตรวจสอบไฟฟ้า (อย่างละเอียด 11-12 รายการ) เป็นรูปแบบการตรวจสอบระบบไฟฟ้าอย่างละเอียดตามรายการที่กำหนด โดยช่างไฟฟ้าที่มีความชำนาญจะลงมาตรวจสอบระบบไฟฟ้าด้วยอุปกรณ์เฉพาะทาง ซึ่งช่วยจัดการกับระบบไฟฟ้าที่เสียหายจากการใช้งานต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน หากต้องการตรวจสอบรายการอื่นเพิ่มเติมก็จะมีการเก็บค่าบริการเพิ่มเติมตามความเหมาะสม โดยบริการตรวจสอบไฟฟ้าอย่างละเอียดจะถูกแบ่งเป็น 1 เฟส และ 3 เฟส ซึ่งการเช็กไฟฟ้าแบบ 3 เฟสจะมีการตรวจสอบแผงไฟย่อยเพิ่มมา และ มีการตรวจที่ละเอียดครอบคลุมจุดต่าง ๆ มากกว่าเหมาะสำหรับบ้านที่มีจุดที่ต้องตรวจสอบเยอะ

    แผงจ่ายไฟหลัก
    เต้ารับและสวิตซ์ไฟฟ้าภายในบ้าน 25 จุด
    เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีโครงสร้างเป็นโลหะที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟรั่ว ทั้งหมด 10 จุด
    วงจรไฟฟ้านอกบ้านไม่เกิน 2 จุด
    เครื่องทำน้ำอุ่นภายในบ้านไม่เกิน 2 จุด
    ระบบไฟสำหรับปั๊มน้ำ 1 จุด
    เบรกเกอร์ย่อยที่ติดตั้งเพิ่มเติม 5 จุด
    ตรวจเช็กสภาพสายไฟ
    ใช้อุปกรณ์เฉพาะวัดค่าความต้านทานของสายดิน
    ตรวจเช็กความร้อนบริเวณจุดรวมสายไฟด้วยอุปกรณ์สแกนอุณหภูมิความร้อนของสายไฟโดยเฉพาะ
    ขันเพิ่มความแน่นให้กับตัวสายไฟ


ซ่อมบำรุงอาคาร: การตรวจสอบระบบไฟฟ้า สำคัญมาก  อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://snss.co.th/dt_post/technical-services/